ไม่อยากให้พื้นแตกร้าว ต้องรู้จัก “เหล็ก Shear Key”

เหล็ก Shear Key คืออะไร?

เหล็ก Shear Key หรือเรียกว่า เหล็กเชื่อมข้าง เหล็กล็อกแผ่นพื้น ถือเป็นองค์ประกอบเล็กๆ แต่มีบทบาทหน้าที่สำคัญในการช่วยล็อคตำแหน่งแผ่นพื้นสำเร็จรูปให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง ไม่เคลื่อนไปมา ช่วยป้องกันปัญหาแผ่นพื้นแตกร้าวขณะก่อสร้าง เราจะสามารถสังเกตเห็นเหล็ก Shear Key ได้ง่ายๆ ตามหน้างานที่จะมีการวางแผ่นพื้นในขั้นตอนการเตรียมงาน ซึ่งจะเป็นลักษณะลวดที่เสียบฝังลงไปในคาน และจะเห็นเป็นเส้นลวดโผล่ออกมาเป็นระยะๆ ในขณะที่บางหน้างานก็ไม่มีการเสียบเหล็กเหล่านี้ไว้ 

วันเอ็มคอนกรีต จึงได้รวบรวมข้อมูลและความสำคัญของเหล็กล็อกแผ่นพื้นเพื่อให้เจ้าของบ้านสามารถพูดคุยและตรวจสอบงานกับช่างเบื้องต้นได้ และหากเกิดกรณีที่ช่างไม่ได้เสียบเหล็กไว้แต่แรกจะทำอย่างไร มีวิธีแก้ปัญหาแบบไหนบ้าง


การติดตั้ง เหล็ก Shear Key

  • เหล็กที่เลือกใช้จะเป็นเหล็กเส้นกลม ที่มีขนาดไม่เล็กไปกว่า 6 มม. และเสียบลงไปในเนื้อคานที่เพิ่งเทใหม่ ลึกประมาณ 10 - 15 ซม.
  • การเสียบเหล็กจะทำการเสียบไว้ตั้งแต่ขั้นตอนของการเทคานเตรียมวางแผ่นพื้น โดยจะฝังห่างทุกๆ 30 - 40 ซม.
  • จากนั้นจะทำการวางแผ่นพื้นตามแนวที่กำหนดไว้ โดยเมื่อวางแผ่นพื้นเสร็จแล้วจะทำการตีเหล็กเส้นเหล่านี้ พับลงไปล็อกที่แผ่นพื้นเอาไว้
  • จากนั้นวางตะแกรงไวร์เมช จึงทำการเชื่อมหรือผูกเหล็กล็อกแผ่นพื้นเข้ากับเหล็กเสริมที่อยู่บนแผ่นพื้นสำเร็จรูป นอกจากล็อกหัวแผ่นพื้นแล้ว ยังช่วยตรึงไวร์เมช ไม่ให้มีการหดตัวกลับได้อีกด้วย
  • เมื่อผูกเหล็กเรียบร้อยแล้ว ทำการเทคอนกรีตทับหน้าเป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอน

ประโยชน์ของเหล็ก Shear Key

เหล็กล็อกแผ่นพื้น หรือ เรียกเข้าใจกันง่ายๆว่า “เหล็กกันร้าว” จะช่วยล็อกหัวแผ่นพื้นป้องกันการขยับเขยื้อนของแผ่นพื้นขณะก่อสร้าง และช่วยยืดตะแกรงไวร์เมชไม่ให้มีการหดตัวกลับ ซึ่งเป็นสาเหตุของแผ่นแตกร้าวในอนาคตซึ่งนับเป็นปัญหาใหญ่ของโครงสร้าง


ติดตั้งเหล็ก Shear Key ทีหลังทำได้หรือไม่?

ในกรณีที่ไม่ได้เสียบเหล็กเอาไว้ในขั้นตอนของการเทคาน ก็สามารถแก้ปัญหาง่ายๆ ด้วยการเจาะรูเสียบเหล็กทีหลังได้เช่นกัน 


สรุป

จำเป็นหรือไม่? ที่ต้องมีเหล็ก Shear Key หากพิจารณาจากประโยชน์ที่มีกับโครงสร้างแล้ว มีย่อมดีกว่าไม่มีแน่นอน เพราะเป็นการเพิ่มความแข็งแรง มั่นคง และความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น สร้างความมั่นใจในระยะยาวกับผู้อยู่อาศัย เพราะการแตกร้าวของแผ่นพื้นอาจจะเกิดขึ้นได้ทั้งในขณะก่อสร้างและหลังก่อสร้างกลายเป็นปัญหาตามมาในภายหลัง ดังนั้นการป้องกันไว้ตั้งแต่แรกย่อมดีกว่าเสมอ



onem banner1
onem banner2