เคยสงสัยกันหรือไม่ว่า เมื่อระยะเวลาผ่านไปทำไมถึงเกิดปัญหาบ้านทรุด บ้านร้าวได้ทั้งๆที่บ้านก็มีการตอกเสาเข็ม และเลือกใช้เสาเข็มที่ได้มาตรฐาน ซึ่งหลายท่านอาจจะมองข้ามขั้นตอนที่สำคัญไป เพราะคิดว่าไม่จำเป็น นั่นก็คือขั้นตอนการ เจาะสํารวจชั้นดิน (Soil Boring) มักจะเป็นขั้นตอนที่ถูกมองข้ามไป เพราะต้องการลดค่าใช้จ่ายในบางขั้นตอน
โดยทั่วไปแล้วก่อนที่จะก่อสร้างใดๆ การออกแบบฐานรากจะต้องให้วิศวกรเป็นผู้กำหนดเอาไว้ แต่บางกรณีที่ไม่ใช้วิศวกร แต่เจ้าของบ้านตัดสินใจเอาเอง หรือมีเพียงผู้รับเหมาเป็นผู้กำหนดแนวทางอาจจะทำให้มีการตัดสินใจที่ผิดพลาดได้ วันเอ็มคอนกรีต จึงเล็งเห็นความสำคัญของการเจาะสำรวจชั้นดิน ว่าจำเป็นอย่างไรในงานก่อสร้าง และจะดีอย่างไร? หากทำการสำรวจก่อน เพื่อให้สามารถตัดสินใจได้ง่ายยิ่งขึ้น
การเจาะสำรวจชั้นดิน คืออะไร?
เป็นการเจาะสำรวจชั้นดิน ด้วยการเจาะเป็นหลุมขนาดเล็ก เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 นิ้ว ขึ้นไป และเจาะที่ความลึก 3 เมตร ขึ้นไป มีการเก็บตัวอย่างดินมาเพื่อวิเคราะห์และทดสอบคุณสมบัติของดิน ความหนาแน่นของดิน ในห้องปฏิบัติการ โดยวิธีการในการเจาะสำรวจที่นิยม มีอยู่ 2 วิธี ดังนี้
1. เจาะล้างด้วยเครื่องเจาะกระแทก (Percussion Drilling)
2. เจาะล้างด้วยเครื่องเจาะปั่น (Rotary Drilling))
เจาะสำรวจชั้นดินก่อนก่อสร้างดีอย่างไร?
- ทำให้ได้ทราบประเภทและชนิดของดิน เพื่อให้สามารถเลือกใช้ ฐานราก ให้เหมาะสมกับงานก่อสร้างของท่าน เช่น หากหน้างานเป็นดินแข็ง ก็สามารถใช้ฐานรากแบบแผ่ได้ ไม่จำเป็นต้องลงเสาเข็ม
- ทำให้ทราบความลึกของชั้นดินดาน เพื่อให้เลือกใช้เสาเข็มได้เหมาะสมในการคำนวณการรับน้ำหนักและคาดคะเนความยาวเสาเข็มที่ต้องใช้
- ลดความผิดพลาดในการตอกเสาเข็ม ในกรณีที่ตอกลงไปไม่ได้แล้วทำการหยุดตอก เนื่องจากคิดว่าถึงชั้นดินแข็ง ซึ่งความจริงสามารถตอกทะลุลงไปได้อีก
- หากดินหน้างานนั้นๆมีความผันผวนมาก จำเป็นจะต้องเจาะสำรวจหลายหลุม เพื่อเปรียบเทียบชนิดของดิน และทำการออกแบบฐานรากหลายแบบตามความเหมาะสม
สรุปเกี่ยวกับการเจาะสำรวจชั้นดิน
ก่อนการก่อสร้างใดๆควรทำการเจาะสำรวจชั้นดินทุกครั้ง เพื่อป้องกันปัญหาโครงสร้างทรุดในภายหลัง ไม่ควรเลือกลดค่าใช้จ่ายด้วยการข้ามขั้นตอนที่สำคัญนี้ เพราะถือได้ว่าเป็นการลงทุนครั้งเดียวที่คุ้มค่าและความปลอดภัยในระยะยาว