การขอไฟเกษตร ไฟฟ้าฟรี ต้องทำยังไงบ้าง?
ไฟฟ้าเกษตร ไฟฟ้าฟรี คืออะไร? หลายท่านอาจจะเคยได้ยินผ่านหูกันมาบ้าง แต่รู้หรือไม่ว่า แตกต่างจากไฟฟ้าที่เราใช้ตามบ้านเรือนทั่วไปอย่างไร? และหากอยากจะขอใช้บ้าง ต้องมีขั้นตอน หลักเกณฑ์ อย่างไรบ้าง วันเอ็มคอนกรีต จึงได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจ สำหรับท่านที่กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับการขอไฟฟ้า เพื่อใช้ในพื้นที่ไร่นาของตนเอง ว่ามีวิธีการอย่างไร ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้ให้ความหมายของ ไฟเกษตร เอาไว้ว่า “ไฟเกษตร คือ การนำไฟฟ้ามาใช้ในสวนเพื่อทำการเกษตร ยกตัวอย่างเช่น การใช้กับเครื่องสูบน้ำ หลอดไฟส่องสว่างในพื้นที่ เป็นต้น” ทั้งนี้ไม่ใช่ว่าทุกคนจะขอใช้ไฟเกษตรได้ แต่จำเป็นจะต้องผ่านเกณฑ์คุณสมบัติต่าง ๆ ที่โครงการกำหนดด้วย

หลักเกณฑ์การขอเข้าร่วมโครงการ 

1. มีหนังสือรับรองว่าพื้นที่ของท่านไม่ได้อยู่ในเขตหวงห้ามของทางราชการใดๆ  โดยต้องมีการรับรองจาก อบต.(องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น)หรือหน่วยงานราชการอื่นๆ

2. พื้นที่นั้นจะต้องมีเส้นทางสาธารณะที่รถยนต์สามารถสัญจรผ่านได้อย่างสะดวก

3. ต้องดำเนินการก่อสร้างระบบจำหน่ายโดยใช้วิธีปักเสาพาดสายไฟเข้าไปถึงจุดที่ต้องการขอใช้ไฟฟ้าได้

4. มีเอกสารรับรองจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือหน่วยงานราชการ ในการยืนยันขนาดพื้นที่การเกษตรและชนิดของกิจกรรมที่ต้องการขอใช้ไฟฟ้า

5. ต้องทำการระบุแหล่งน้ำที่จะใช้สำหรับการผลิตทางการเกษตรในพื้นที่ขอใช้ไฟฟ้า ว่าใช้น้ำจากแหล่งใด เช่น คลองสาธารณะ คลองชลประทาน และแหล่งน้ำใต้ดินในลักษณะต่างๆ เป็นต้น

6. ต้องมีเอกสารสิทธิ์/หลักฐานสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายของพื้นที่ทำการเกษตร และต้องไม่ใช่ที่ดินที่มีการถือครองโดยเอกชนรายใหญ่

7. ต้องเป็นเกษตรกรรายย่อยที่มีการขอติดตั้งมิเตอร์ ขนาดไม่เกิน 15(45)แอมป์ ต่อ 1 ราย

8. ต้องสามารถทำการออกใบแจ้งหนี้ค่ากระแสไฟฟ้ามิเตอร์เครื่องที่ 2(ตัวใหม่) โดยจะมีการแจ้งเก็บเงินไปยังมิเตอร์เครื่องที่ 1(ตัวเก่า) โดยทั้งสองมิเตอร์จะต้องอยู่ในเขตพื้นที่ของการไฟฟ้าเดียวกัน

9. ค่าใช้จ่ายในการขยายเขตต่อราย เฉลี่ยไม่เกิน 50,000 บาท (PEA. รับผิดชอบค่าใช้จ่ายการขยายเขต)

เอกสารที่ต้องเตรียม
สำเนาทะเบียนบ้าน
สำเนาโฉนดที่ดิน
สำเนาบัตรประชาชน
ใบรับรองจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือหน่วยงานราชการ

ขั้นตอนการขอไฟฟ้าเกษตร 

1. ขอบ้านเลขที่ 
- กรณีอยู่พื้นที่ห่างไกล เพื่อทำการขอติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้า ต้องสร้างเพิงพักหรือทำเป็นบ้านถาวรและจะต้องมีห้องน้ำ เพราะจำเป็นมากในการใช้เป็นหลักฐานสำหรับขอบ้านเลขที่ 

- กรณีมีบ้านพักอยู่แล้ว ให้ถ่ายรูปที่พักและห้องน้ำ ให้อนามัยในพื้นที่นั้นๆ เข้ามาตรวจสอบพร้อมออกเอกสารรับรองว่าถูกต้องตามสุขลักษณะ จากนั้นนำหนังสือไปยื่นกับผู้ใหญ่บ้านหรือผู้ที่เกี่ยวของในการของบ้านเลขที่

- นำเอกสารหรือหนังสือรับรองจากผู้ใหญ่บ้านไปยื่นที่อำเภอเพื่อลงทะเบียนขอสำเนาทะเบียนบ้านต่อไป
พอดีเรา

ข้อควรรู้:  การขอไฟฟ้าเกษตรในพื้นที่ห่างไกลชุมชน เพื่อให้เข้าเกณฑ์ในการขอไฟฟ้าเกษตร จะต้องรวมกลุ่มบ้านในโซนเดียวกัน 3 หลังขึ้นไปเพื่อขอไฟฟ้า ถึงจะมีน้ำหนักในการขอไฟฟ้า หากเป็นบ้านหลังเดียวก็สามารถขอไฟฟ้าพิเศษได้ แต่ค่าไฟอาจจะสูงกว่าปกติ

2. ยื่นเรื่องกับหน่วยงานท้องถิ่น 
นำเอกสารไปยื่นกับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นใน อบต. หรือ เทศบาล พื้นที่ของแต่ละท่าน  เจ้าหน้าที่จะให้กรอกเอกสารเพื่อรับรองโดยแนบสำเนาทะเบียนบ้านของท่านและเพื่อนบ้านไปพร้อมกัน

3.ยื่นเรื่องที่การไฟฟ้าในเขตพื้นที่
ยื่นคำร้องขอใช้ไฟฟ้า
- เมื่อได้รับคำร้องเรียบร้อยแล้ว การไฟฟ้าจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ การเดินสายภายในอาคารในพื้นที่ของท่าน
- หลังจากตรวจสอบ หากมีการเดินสายหรือติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าไม่ถูกต้องตามมาตรฐานการไฟฟ้าและไม่ปลอดภัย  เจ้าหน้าที่จะให้คำแนะนำเพื่อทำการแก้ไขให้ถูกต้อง แต่หากถูกต้องแล้วจะแจ้งให้ผู้ใช้ไฟฟ้าทราบเพื่อทำการชำระค่าธรรมเนียมและเก็บใบเสร็จการชำระไว้เป็นหลักฐาน
- หลังจากชำระค่าธรรมเนียมขอใช้ไฟฟ้าเรียบร้อยแล้ว จะได้รับ SMS แจ้ง "ดำเนินการติดตั้งมิเตอร์แล้ว" และจะได้รับการติดตั้งมิเตอร์ โดยมีระยะเวลา ดังนี้

ในเขตเมืองติดตั้งมิเตอร์ภายใน 2-5 วันทำการ
นอกเขตเมืองติดตั้งมิเตอร์ภายใน 5-7 วันทำการ

ค่าธรรมเนียมในการยื่นขอมิเตอร์ไฟฟ้า
5(15) แอมป์ ค่าธรรมเนียม 1,000 บาท   
15(45) แอมป์ 1 เฟส ค่าธรรมเนียม 6,450 บาท  
15(45) แอมป์ 3 เฟส ค่าธรรมเนียม 21,350 บาท

ค่าไฟฟรี ใช้ไม่เกินกี่หน่วย? สำหรับค่าไฟฟ้าฟรี มีเงื่อนไข ดังนี้ 
- ผู้ใช้ประเภทบ้านที่อยู่อาศัย
- มิเตอร์ต้องไม่เกิน 5 แอมป์
- ต้องไม่เป็นนิติบุคคล
- ใช้ไฟไม่เกิน 50 หน่วย ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 เดือน

ตัวอย่างติดตั้ง

onem banner1
onem banner2